เหล็กรางน้ำเอ็นจิเนียริ่ง เป็นรูปแบบของแถบโลหะที่ขึ้นรูปเป็นรูปตัว U, J หรือ C เพื่อใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ โลหะรูปแบบนี้มีประโยชน์มากมายและมีหลายขนาดเพื่อให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะ การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์คือสิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากเหล็กประเภทอื่นๆ ทำให้เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง มีความแข็งแกร่งมากกว่าเหล็กกล้าทรงแบน และยังสามารถรองรับอุปกรณ์และเครื่องจักรที่หนักกว่าได้อีกด้วย
กระบวนการสร้างช่องเหล็กเรียกว่าการขึ้นรูปม้วน กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการป้อนแถบผ่านชุดลูกกลิ้งหรือตัวรองรับ ซึ่งจะทำให้เหล็กบิดเบี้ยวจนกว่าจะได้รูปร่างและขนาดสุดท้าย สามารถทำได้โดยใช้ระบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งควบคุมตำแหน่งและทิศทางของลูกกลิ้งรองรับ จากนั้นแถบจะถูกตัดตามความยาวที่ต้องการและอาจชุบสังกะสีหรือเชื่อมเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
มีช่องโลหะหลายประเภทที่สามารถทำได้โดยใช้กระบวนการขึ้นรูปม้วน บางส่วนถูกตั้งชื่อตามรูปร่างและชื่ออื่นๆ ตามประเภทของงานที่นำไปใช้ได้ ตัวอย่างเช่น ช่องโลหะ U ตั้งชื่อตามรูปร่าง "U" และมักใช้เป็นโครงสร้างรองรับ สามารถใช้เป็นคานในอาคาร เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับคานไม้ในระหว่างการปรับปรุง หรือเพิ่มความสูงโดยรวมของผนังหรือหลังคา
ช่องโลหะอีกประเภทหนึ่งคือช่อง C สแตนเลส ซึ่งตั้งชื่อตามรูปร่างและใช้เป็นตัวรองรับโครงสร้างที่สัมผัสกับองค์ประกอบต่างๆ เหล็กชนิดนี้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้งและการใช้งานอื่นๆ ที่เหล็กอาจเสียหายจากน้ำหรืออากาศได้ง่าย อีกทั้งยังมีราคาที่ถูกกว่าเหล็กชนิดอื่นๆ
เหล็กช่องยังใช้ทำวงกบประตูและหน้าต่างทั้งในอาคารไม้และโครงโลหะ เหล็กมีความแข็งแรงพอที่จะต้านทานรอยบุบและความเสียหายอื่น ๆ และให้กรอบหน้าต่างหรือประตูที่มั่นคงกว่าไม้
นอกจากจะมีความทนทานและใช้งานได้หลากหลายแล้ว ช่องเหล็กเหล่านี้ยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย ทำให้ง่ายต่อการจัดการและติดตั้งในโครงการก่อสร้าง สามารถใช้เสริมคานคอนกรีต สร้างฐานรองรับเครื่องจักรและอุปกรณ์หนัก หรือทำโครงสำหรับผนัง มักใช้เพื่อดูดซับเสียงโดยวางระหว่างผนังของอาคารปูนปลาสเตอร์ ซึ่งสามารถอุดแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากเสียงรบกวนจากด้านใดด้านหนึ่งได้ พวกเขาสามารถเจาะหรือสลักเกลียวเข้าที่เพื่อยึดสายไฟและการเชื่อมต่ออื่น ๆ ความเป็นไปได้ในการใช้เหล็กกล้าประเภทนี้ไม่มีสิ้นสุด เนื่องจากเป็นวัสดุที่ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน